ในวาระครบรอบ 120 ปีที่กรมหลวงชุมพรฯ นิวัตมาตุภูมิ สู่ราชนาวีสยาม คณะผู้ดำเนินโครงการฯ ได้สัมภาษณ์พิเศษ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของบรรดาผู้สืบสานพระปณิธานแห่งองค์บิดาของทหารเรือไทย ในยุคสมัยนี้
“… คำว่ารากฐาน สำคัญมากนะครับ … ถ้าบ้านรากฐานไม่ดี ก็อยู่ได้ไม่นาน ไม่คงทนถาวร…”
สาระสำคัญเบื้องต้น ในทัศนะจากพลเรือเอก ลือชัย สะท้อนถึงพระกรณียกิจที่พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงกระทำต่อกองทัพเรือไทย ได้อย่างเรียบง่ายแต่คมชัด
กล่าวได้ว่าการ “วางรากฐาน” คืองานที่พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงกระทำตลอดการทรงรับราชการ โดยเฉพาะในด้าน “องค์บุคคล” อันเป็นหนึ่งปัจจัยหลักของการที่สยามจะดำเนินงานด้านความมั่นคงได้ด้วยตัวเอง แทนการฝากความหวังเอาไว้ในการจ้างนายทหารชาวต่างชาติ โดยทรงมุ่งมั่นหล่อหลอมนายทหารเรือสยามที่มีความรู้และความสามารถเทียบเท่านานาอารยประเทศ
“… การทรงวางรากฐานในการศึกษาของพระองค์ ไม่ใช่การศึกษาเฉพาะโรงเรียนนายเรืออย่างเดียว มีหลากหลายสาขาที่พระองค์ทรงวางรากฐานเอาไว้ ทั้งโรงเรียนนายเรือปกติ โรงเรียนนายช่างกล เป็นต้น …
… ในการเรียนทางทหารจะมีอยู่สองอย่าง เรียกว่าการเรียนและการฝึก … สมัยก่อนเราก็แค่ฝึกในประเทศ ไม่เคยฝึกต่างประเทศเลย พระองค์ทรงเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่นำนักเรียนนายเรือไปฝึกในต่างประเทศ ที่ดีกว่านั้นก็คือ การฝึกต่างประเทศของพระองค์นั้นใช้คนไทยทั้งหมดทั้งปวง ไม่ใช่ชาวต่างชาติเลย นี่คือการวางรากฐานในการฝึก …”
นอกเหนือจากการ “สร้างคน” แล้ว พระองค์ยังทรงพัฒนา “องค์วัตถุ” และ “องค์ยุทธวิธี” ควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง สู่การพัฒนาศักยภาพของกองทัพเรือไทยในทุก ๆ ด้าน
ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 100 ปี หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ขณะทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ แต่พระปณิธานและรากฐานที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้นั้น ยังคงเป็นหลักให้เหล่านายทหารเรือได้ยึดมั่นและสืบสาน พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้และสรรพกำลังต่าง ๆ ตามความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
“… เราก็ต้องมีการรักษาโครงสร้างเอาไว้ให้สมบูรณ์ สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างเอาไว้ เราก็ทำให้เติบโตขึ้น ผมให้นโยบายว่าต้อง ‘รุกคืบหน้า สถาปนาความมั่นคง’ ก็คือที่มีอยู่ รักษาให้อยู่ แล้วพัฒนาต่อไป โดยยึดหลักคือ 3 องค์ 1 ด้าน ซึ่ง 3 องค์ก็คือ องค์บุคคล องค์วัตถุ องค์ยุทธวิธี ส่วน 1 ด้าน คือด้านการบริหารจัดการ ในที่นี้ องค์บุคคลก็มาจากคาถาในตราประจำพระองค์ที่ว่า กยิรา เจ กยิราเถนํ หมายความว่า จะทำสิ่งไร ควรทำจริง เราก็ต่อยอด ผมเองได้ให้คำขวัญว่า จิตใจที่เข้มแข็งและดีงาม ล้วนอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์ ให้มีความเข้มแข็ง อดทน เพื่อจะรักษามรดกของพระองค์ไว้ให้ได้…
… ส่วนองค์วัตถุ สังเกตดูไหมว่าพระองค์ทรงคิดรอบด้าน การมีฐานทัพเรือ มีเรือต่าง ๆ นั้น หมายความว่าต้องมีความสมบูรณ์ในตัวเอง เราต้องพัฒนาขีดความสามารถให้สมบูรณ์ในตัวเอง การมีเรือต้องมีฐานทัพ การมีอาวุธต้องมีคลังอาวุธ เป็นต้น ความสมบูรณ์ในตัวเองนี้ เราต้องรักษาไว้ให้ได้ …
… สำหรับองค์ยุทธวิธี พระองค์ทรงสอนการเป็นชาวเรือ นักเรียนนายเรือต้องล้างห้องน้ำ ขัดพื้นเอง ทรงสอนว่านักเรียนนายเรือต้องทำงานเหมือนกับทหารเกณฑ์คนหนึ่งได้ เช่นเดียวกัน ปัจจุบันเราก็สอนเช่นนี้ นายทหารกองเรือทั้งหลายกว่าจะจบการศึกษา ก็ต้องฝึกการเป็นพลทหารมาก่อนทั้งสิ้นทั้งปวง สิ่งนี้เรียกว่า สปิริตชาวเรือ …”
จากพระปณิธานและพระปรีชาของนักเรียนนายเรือสยามพระองค์แรก บัดนี้ได้ปรากฏผลเป็นที่ประจักษ์ และจะไม่หยุดพัฒนาขีดความสามารถ ต่อยอดจากรากฐานอันมั่นคงที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้
“… สิ่งเหล่านี้ คือเมล็ดพันธุ์ที่ทรงหว่านไว้ตั้งแต่อดีต ขณะนี้เมล็ดพันธุ์นั้นเติบโตขึ้น งอกงามไปเรื่อย ๆ สร้างสรรค์กองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ไม่แพ้ใครในภูมิภาคนี้ และจะเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ต่อไป นี่คือกองทัพเรือของเราครับ …”
นี่เป็นเพียงสาระสำคัญส่วนหนึ่ง จากการสัมภาษณ์พิเศษ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ เท่านั้น ยังมีเนื้อหาสาระและทัศนะมุมมองที่น่าสนใจจากพลเรือเอก ลือชัย รวมทั้งเรื่องราวที่สืบเนื่องหลากประเด็น ร้อยเรียงอยู่ในตอนที่ 3 ของสารคดีในโครงการ กรมหลวงชุมพรฯ 120 ปี นิวัตมาตุภูมิ สู่ราชนาวีสยาม ชื่อตอนว่า “มรดกแห่งองค์บิดา” รับชมได้ที่ https://youtu.be/e3zz3QipEnE ครบครันด้วยประเด็นเข้มข้น เสริมด้วยอรรถรสด้านภาพและเสียงที่ครบเครื่อง โปรดอย่าพลาดชม